เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ( 14 ธ.ค.) นิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ได้พบกับอิรฟาน อาลี ประธานาธิบดีกายอานา ที่ประเทศเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ในภูมิภาคแคริบเบียน เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นพื้นที่พิพาท “เอสเซกิโบ”
โดยราล์ฟ กอนซัลเวส (Ralph Gonsalves) นายกรัฐมนตรีของเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ซึ่งพ่วงตำแหน่งประธานสหภาพรัฐลาตินอเมริกาและคาริบเบียนเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดการประชุมนี้
เวเนซุเอลาผนวก “เอสเซกิโบ” ดินแดนพิพาทในกายอานา
เวเนซุเอลาลงประชามติเห็นชอบ ยึดดินแดน “เอสเซกิโบ” จากกายอานา
หลังการประชุมเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีของเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ได้ออกมาแถลงว่าทั้งสองชาติสามารถออกแถลงการณ์ร่วมทั้งหมด 11 ข้อ
หลักๆ มีเนื้อหาที่ระบุว่า ประธานาธิบดีมาดูโรของเวเนซุเอลาและประธานาธิบดีอาลีของกายอานาตกลงที่จะไม่ใช้การข่มขู่หรือใช้กำลังทางทหารต่อกันในพื้นที่ข้อพิพาทดังกล่าวและในทุกกรณี
ขณะเดียวกันผู้นำทั้งสองประเทศจะงดเว้นคำพูดหรือการกระทำใดๆ ที่เสี่ยงยกระดับความขัดแย้งระหว่างเวเนซุเอลาและกายอานา
นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมที่ประกอบด้วยรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเรื่องต่างๆ ตามที่ตกลงร่วมกัน และควรรายงานความคืบหน้าภายใน 3 เดือน
ผู้นำสองประเทศยังตกลงที่จะพบกันอีกครั้งที่บราซิลในเดือนถัดไปเพื่อพิจารณาเรื่องอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อข้อพิพาททางดินแดน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะไม่ก่อความขัดแย้งรุนแรง แต่กายอานายังคงยืนยันว่า ดินแดนเอสเซกิโบเป็นพื้นที่ของพวกเขา
โดยในระหว่างช่วงพักการประชุม ผู้นำกายอานาได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่า กายอานาต้องการอยู่ร่วมกันกับกายอานาและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอเมริกาใต้อย่างสันติ และไม่ต้องการสงคราม
พร้อมย้ำว่า กายอานามีสิทธิเหนือดินแดนเอสเซกิโบทุกประการ และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือ ICJ ควรเป็นผู้ตัดสินในประเด็นข้อพิพาททางดินแดนนี้
เอสเซกิโบนั้นเป็นดินแดนพิพาทระหว่างเวเนซุเอลาและกายอานามานานแล้ว ก่อนที่ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เวเนซุเอลาจะประกาศผนวกดินแดนดังกล่าว จนทำให้ความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้น
ดินแดนแห่งนี้อยู่ตรงไหนและทำไมจึงกลายพื้นที่พิพาทระหว่างสองชาติ
ดินแดนเอสเซกิโบอยู่ในอาณาเขตของกายอานา มีพื้นที่ประมาณ 159,500 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ราว 2 ใน 3 ของประเทศกายอานา และเป็นที่อยู่อาศัยของชาวกายอานาราว 125,000 คน
ในช่วงสมัยอาณานิคม เมื่อปี 1841 อังกฤษได้ซื้อบริติช เกียนา ซึ่งก็คือประเทศกายอานาในปัจจุบันมาจากเนเธอร์แลนด์
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวเนซุอาในสมัยนั้นได้กล่าวหาว่าอังกฤษรุกล้ำพื้นที่ส่วนหนึ่งของตนเอง นั่นคือ ดินแดนเอสเซกิโบ ความขัดแย้งระหว่างอังกฤษและเวเนซุเอลาเกี่ยวกับดินแดนนี้ดำเนินมาถึง 58 ปี
จนกระทั่งในปี 1899 ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศได้ตัดสินให้เขตแดนดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของอังกฤษ และแม้กายอานาจะได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 1966 ดินแดนนี้ก็ยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลกวยอานา
แต่รัฐบาลเวเนซุเอลาไม่เคยยอมรับผลการตัดสินในครั้งนั้น และเดินหน้าเรียกร้องให้มีการผนวกดินแดนนี้กลับมาเป็นของตนมาโดยตลอด
กระทั่งในปี 2015 บริษัท ExxonMobil บริษัทด้านพลังงานชั้นนำของสหรัฐฯ ได้ค้นพบน้ำมันมหาศาลในดินแดนเอสเซกิโบ โดยบริเวณนั้นชื่อ สตาโบรค บล็อก (Stabroek block) มีพื้นที่ 26,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งเอสเซกิโบราว 193 กิโลเมตร
การค้นพบน้ำมันในครั้งนี้ทำให้ข้อพิพาทเรื่องดินแดนระหว่างเวเนซุเอลาและกายอานากลับมาตึงเครียดอย่างหนักอีกครั้ง
จนกระทั่งในปี 2018 อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้นำข้อพิพาททางดินแดนระหว่างเวเนซุเอลาและกวยอานาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือ ICJ
และในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ประกาศว่าตนเองมีอำนาจในการตัดสินเกี่ยวกับข้อพิพาททางดินแดนนี้ ซึ่งหมายถึงสามารถเป็นผู้ตัดสินว่าประเทศใดจะได้สิทธิในดินแดนนี้ไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวเนซุเอลาเพิกเฉยต่อคำประกาศของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และเดินหน้าจัดการลงประชามติเกี่ยวกับการผนวกดินแดนเอสเซกิโบในวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฎว่าร้อยละ 95 โหวตเห็นชอบ
แม้ว่าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ออกมาเตือนว่า การเคลื่อนไหวใดๆ ของเวเนซุเอลาอาจเปลี่ยนแปลงสถานภาพที่เป็นอยู่ในภูมิภาค
ส่งผลให้ในอีก 2 วันต่อมา วันที่ 5 ธันวาคม ประธานาธิบดีมาดูโรประกาศร่างกฎหมายจัดตั้งจังหวัด “กายอานา เอเซกิบา” ในดินแดนเอสเซกิโบ พร้อมทั้งประกาศเดินหน้าสำรวจน้ำมัน เชื้อเพลิงฟอสซิล และแร่ธาตุในพื้นที่พิพาทนี้โดยทันทีคำพูดจาก เว็บตรง PG SLOT
และในวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเวเนซุเอลาได้เปิดเผย “แผนที่ประเทศเวเนซุเอลาใหม่” ที่รวมเอาดินแดนพิพาท “เอสเซกิโบ” เข้าไปเรียบร้อยแล้ว ต่อสาธารชนอย่างเป็นทางการ
ขณะที่รองประธานาธิบดีของกายอานาได้ออกมาเตือนว่า กายอานาจะปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนเอสเซกิโบ และความพยายามใดๆ ของเวเนซุเอลาที่จะเข้ามาสำรวจน้ำมันในพื้นที่ของกายอานาจะถือเป็นการบุกรุกดินแดนอย่างผิดกฎหมายท่ามกลางความขัดแย้งที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
ทำให้ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล และราล์ฟ กอนซัลเวส นายกรัฐมนตรีเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ได้ส่งจดหมายให้ผู้นำเวเนซุเอลาและผู้นำกายอานา เรียกร้องให้ทั้งสองประเทศหารือเรื่องนี้กันแบบต่อหน้าโดยสหภาพรัฐลาตินอเมริกาและแคริบเบียนจะเป็นผู้สนับสนุนการประชุมครั้งนี้ พร้อมย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการบรรเทาความขัดแย้งรุนแรงในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาและประธานาธิบดีกายอานาเห็นพ้องกันว่าควรหารือเรื่องนี้ร่วมกัน และทั้งคู่ระบุว่ามีความปราถนาที่จะรักษาสันติภาพในภูมิภาค โดยไม่มีการแทรกแซงจากภายนอก จนนำมาสู่แถลงการณ์ร่วมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา